เราไม่ได้แค่วางแผนภาษี

แต่เราวางแผนธุรกิจร่วมกับคุณ

5 แนวทาง การวางแผนภาษีสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ในไทย






5 แนวทางการวางแผนภาษีสำหรับธุรกิจออนไลน์


5 แนวทางการวางแผนภาษีสำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ในไทย

💡 สำคัญ! ในยุคที่ทุกคนขายของผ่าน Shopee, Lazada, TikTok, Facebook การวางแผนภาษีเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการห้ามมองข้าม!

🤔 ทำไมต้องวางแผนภาษี?

หลายคนคิดว่าขายของออนไลน์แค่โพสต์สินค้า รอลูกค้าซื้อ แล้วส่งของ จบ! แต่จริงๆ แล้วยังมีเรื่องภาษีที่ต้องดูแลด้วย

🎯 ประโยชน์ของการวางแผนภาษี

  • ประหยัดเงิน: ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้เต็มที่ จ่ายภาษีน้อยลง
  • มั่นคงทางการเงิน: จัดการกระแสเงินสดได้ดี ธุรกิจแข็งแรง
  • หลีกเลี่ยงปัญหา: ไม่ต้องกังวลเรื่องผิดกฎหมาย หรือโดนปรับ

📊 รู้จักภาษีที่ต้องจ่าย

ธุรกิจออนไลน์ต้องเสียภาษีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบธุรกิจ:

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา – สำหรับเจ้าของธุรกิจรายย่อย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) – เมื่อยอดขายเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล – สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นบริษัท
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ – ในบางกรณีพิเศษ

🚀 5 แนวทางการวางแผนภาษี

1. เลือกรูปแบบธุรกิจที่คุ้มค่า

💰 เปรียบเทียบอัตราภาษี:

  • บุคคลธรรมดา: อัตราก้าวหน้า 0-35%
  • นิติบุคคล (SME): 15% ส่วนใหญ่
  • นิติบุคคล (ใหญ่): สูงสุด 20%

🔍 ดูซิ: ถ้ายอดขายสูง จดทะเบียนบริษัทอาจคุ้มกว่า!

2. บันทึกบัญชีให้เป็นระบบ

เก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ให้ครบ:

  • 🧾 ใบเสร็จค่าสินค้า
  • 📱 ค่าโฆษณา Facebook, Google
  • 📦 ค่าขนส่ง, บรรจุภัณฑ์
  • 💻 ค่าอุปกรณ์, ซอฟต์แวร์
  • 🏢 ค่าเช่าพื้นที่เก็บสินค้า

3. ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

🎁 สิทธิประโยชน์ที่ใช้ได้:

  • ค่าฝึกอบรมพนักงาน – หักได้ 200%
  • ค่าวิจัยพัฒนา (R&D) – หักได้พิเศษ
  • ค่าจ้างผู้พิการ/ผู้สูงอายุ – หักได้ 200%
  • ค่าเสื่อมราคาคอมพิวเตอร์, ซอฟต์แวร์

4. จดทะเบียน VAT เมื่อถึงเวลา

⚠️ จำไว้: ยอดขายเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจดทะเบียน VAT และยื่นแบบรายเดือน

5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อธุรกิจโตขึ้น ควรมีสำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจออนไลน์มาช่วยดูแล

📈 ตัวอย่างจริง: ร้านเสื้อผ้าออนไลน์

📊 ข้อมูลธุรกิจ:

  • ขายผ่าน Shopee, Lazada, TikTok, Facebook
  • ยอดขาย 5 ล้านบาท/ปี
  • กำไรประมาณ 1.5 ล้านบาท/ปี

🎯 แผนภาษีที่เหมาะสม:

  1. จดทะเบียน VAT – เพราะยอดขายเกิน 1.8 ล้าน
  2. ตั้งบริษัท – เสียภาษี 15% แทน 25-30%
  3. บันทึกค่าใช้จ่าย – ค่าโฆษณา, ค่าขนส่ง, ค่าบรรจุภัณฑ์
  4. หักค่าเสื่อมราคา – คอมพิวเตอร์, กล้อง, อุปกรณ์
  5. ยื่นภาษีตรงเวลา – หลีกเลี่ยงค่าปรับ

💰 ผลลัพธ์: ประหยัดภาษีได้ปีละ 150,000-300,000 บาท!

🏁 เริ่มต้นอย่างไร?

  1. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน – เข้าใจภาษีที่ต้องจ่าย
  2. เลือกรูปแบบธุรกิจ – บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล
  3. ตั้งระบบบัญชี – บันทึกรายรับ-รายจ่าย
  4. ศึกษาสิทธิประโยชน์ – ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  5. วางแผนกระแสเงินสด – เตรียมเงินจ่ายภาษี
  6. หาที่ปรึกษา – สำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญ

📝 สรุปสำคัญ

การวางแผนภาษีไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แต่สำคัญมาก! เริ่มต้นด้วยการเข้าใจพื้นฐาน เลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม บันทึกข้อมูลให้ครบถ้วน และใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้เต็มที่

🎯 เป้าหมาย: ประหยัดเงิน → สร้างความมั่นคง → หลีกเลี่ยงปัญหา


จะดีกว่าไหม

ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและวางแผน

บริการที่ยืดหยุ่น ปรับให้เหมาะกับขนาดและความต้องการของคุณ

ทำไมต้องให้ click ดูแล

เพราะเรายินดีให้คำปรึกษาและเป็นเพื่อนให้ธุรกิจคุณ

บริการแบบ
One-stop Service
เข้าใจบัญชีภาษีที่ถูกต้อง
ช่วยวางแผนเป็นระบบ
เข้าใจในธุรกิจยุคดิจิทัล
และ startup
สื่อสารที่ชัดเจน
และเข้าถึงง่าย
บริษัทภายใต้การดูแล
0 +

Why Choose Us

ทำไมต้องเรา

จะดีกว่าไหม ถ้าได้ทีมงานมืออาชีพดูแล งานบัญชีแบบครบวงจร เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท
ให้คำปรึกษาฟรีตลอดการทำธุรกิจ

เป็นเพื่อนคู่คิด ลูกค้าสามารถปรึกษางานด้านบัญชี การเงิน ภาษีกับเราได้ตลอดเวลา

One-stop service

เรามีบริการรับส่งเอกสารให้ถึงที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล บริการให้เสร็จทั้งหมดทั้งบันทึกบัญชี ยื่นภาษี จนจัดทำงบการเงิน

ทีมงานคุณภาพ พร้อมให้บริการ

ทีมงานเราประกอบด้วยอดีตผู้ตรวจสอบบัญชีจากบริษัท Big 4 และผู้ทำบัญชีจากบริษัทมหาชน ที่มีประสบการณ์เกิน 10 ปี

โปร่งใส ตรวจสอบได้

สามารถตรวจสอบรายงานต่างๆได้ และให้คุณชำระภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง

ประหยัดเวลาและเงิน

ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนราคาแพงจากการจ้างพนักงานบัญชีเอง เราบริการด้วยความชำนาญทางด้านบัญชีในราคาประหยัด

มีเวลาในการโฟกัสธุรกิจมากขึ้น

มีเวลาในการทำธุรกิจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องงานบัญชี